วันพุธที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2554

สูตรอาหารโปรไบโอติก ตอนที่ 2

เครื่องเคียง
1.มันฝรั่งบดใส่เนยกระเทียม


หัวหอมสับ
½  ถ้วย
กระเทียมปอกเปลือก
6  กลีบ
ออริกาโน่แห้ง ใบโหระพา หรือเครื่องเทศอิตาเลียน
2  ช้อนชา
ไวน์ขาว
½  ถ้วย
น้ำมันมะกอกเอ็กซ์ตร้าเวอร์จิ้น
2  ช้อนโต๊ะ
มันฝรั่งอบไม่ปอกเปลือกหั่นเป็นลูกเต๋า (ประมาณ 8 หัว)
8  ถ้วย
โยเกิร์ตไม่ปรุงรส
½  ถ้วย
เนยแข็งเชดดาร์บ่ม ขูดเส้น
1  ถ้วย


            ปั่นหัวหอม กระเทียม ออกริกาโน่ หรือสมุนไพรอื่น ๆ และไวน์ขาวในเครื่องผสมอาหารหรือเครื่องปั่น จากนั้นเติมน้ำมันมะกอกแล้วปั่นอีกครั้งและวางพักไว้ ซอสปั่นให้รสชาติหัวหอม – กระเทียมอาจทำไว้ล่วงหน้าและเก็บแช่ตู้เย็นหรือช่องแข็งไว้ นำออกมาทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องก่อนใช้
            ใส่มันฝรั่งไม่ปอกเปลือกซึ่งหั่นเป็นลูกเต๋าลงในกระทะแล้วเทน้ำลงจนท่วมมันฝรั่ง นำไปต้มและเคี่ยวจนกระทั่งมันฝรั่งนุ่ม ใช้เวลาประมาณ 5 – 10 นาที ตรวจให้แน่ใจว่าสุกได้ที่
            เทน้ำทิ้งแล้วนำมันฝรั่งมาใส่ในชามผสม เติมหัวหอม – กระเทียมปั่น โยเกิร์ต และเนยแข็งขูดลงไปผสม จากนั้นก็บดมันฝั่งด้วยส้อมหรือที่บดมันฝรั่งจนกระทั่งเป็นเนื้อเดียวกัน หรือจะใช้เครื่องผสมอาหารปั่นที่ความเร็วปานกลาง เสิร์ฟทันที หรือใส่ภาชนะที่เข้าเตาอบได้แล้วเอาเข้าไปอุ่นในเตาอบไม่เกิน 1 ชั่วโมง

2.ไรต้า (ซอสโยเกิร์ตแตงกวาอินเดีย)


โยเกิร์ตไม่ปรุงรส
1  ถ้วย
น้ำมันมะกอกเอ็กซ์ตร้าเวอร์จิ้น
1  ช้อนชา
ยี่หร่า
½  ช้อนชา
เกลือ
1/8  ช้อนชา
แตงกวาไม่ปอกเปลือกสับละเอียด
1  ลูก
หัวหอมแดงหั่นลูกเต๋าเล็ก ๆ
1/3  ถ้วย
ขึ้นฉ่ายหั่นเป็นลูกเต๋าเล็ก ๆ
2  ช้อนโต๊ะ


            เทโยเกิร์ตใส่ชามผสม ใส่น้ำมันมะกอก ยี่หร่า และเกลือ แล้วคนให้เข้ากัน จากนั้นก็เติมแตงกวา หัวหอม และขึ้นฉ่าย ไรต้านี้สามารถรับประทานทันที แต่รสชาติจะดีขึ้นหากแช่ตู้เย็นไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง หรือกว่านั้น

ของหวาน
1.ครันซ์ผลไม้สด


ครัมเบิล :

เกล็ดข้าวโอ๊ตบดหยาบไม่ปรุงสุก (ใช้ชนิดสุกช้า)
1  ถ้วย
แป้งสาลีโฮลวีต
½  ถ้วย
เมล็ดลินินบดหยาบ
½  ถ้วย
น้ำตาลทรายแดง
½  ถ้วย
เกลือ
1/8  ถ้วย
เนย
¼  ถ้วย
ลูกเบอร์รี่หรือลูกพีช ลูกแพร์ แอปเปิลไม่ปอกเปลือก หั่นลูกเต๋า
4 – 6 ถ้วย
อบเชย
1  ช้อนชา
โยเกิร์ตรสวานิลลาหรือโยเกิร์ตแช่แข็ง (ไม่ใส่ก็ได้)
1  ถ้วย


            การเตรียมครัมเบิล : ผสมข้าวโอ๊ต แป้งสาลี เมล็ดลินินบดหยาบ น้ำตาลทรายแดง และเกลือในชามผสม ใส่เนยที่ทิ้งให้นิ่มแล้วลงไป กวนจนเป็นก้อนร่วน ๆ นำไปแผ่ในแม่พิมพ์อบขนมตื้น ๆ ขนาด 10 x 6 นิ้วให้หนาเท่า ๆ กันแล้วนำไปอบที่ 350 องศาฟาเรนไฮต์ราว 10 – 15 นาที หรือจนกระทั่งข้าวโอ๊ตเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล นำออกมาจากเตาอบแล้วปล่อยให้เย็นลง มันจะร่วนเหมือนชื่อของมัน คุณสามารถทำครัมเบิลไว้ล่วงหน้าแล้วเก็บไว้ในถุงหรือภาชนะพลาสติกที่มีฝาปิดมิดชิดเหมือนเวลาที่คุณเก็บคุกกี้ข้าวโอ๊ต
            เวลารับประทานก็ตักครัมเบิลใส่ชามแต่ละคน หั่นผลไม้เป็นชิ้น ๆ ถ้าคุณใช้แอปเปิล ลูกพีช หรือลูกแพร์ แล้วนำผลไม้มาวางบนครัมเบิลจากนั้นก็โรยอบเชย ก่อนเสิร์ฟราดด้วยโยเกิร์ตรสวานิลลา หรือโยเกิร์ตแช่แข็งตามชอบ

2.โยเกิร์ตเบอร์รี่แช่แข็ง


บลูเบอร์รี่ หรือสตรอว์เบอร์รี่สดหรือแช่แข็ง
2  ถ้วย
โยเกิร์ตไม่ปรุงรส
2½  ถ้วย
ฮาล์ฟ แอนด์ ฮาล์ฟ (นมผสมครีมอย่างละครึ่ง)
1  ถ้วย
น้ำตาล
1  ถ้วย


            ปั่นผลเบอร์รี่ในเครื่องปั่นหรือเครื่องผสมอาหาร เทผลไม้ปั่น และโยเกิร์ต นมผสมครีม และน้ำตาลลงในชามผสมแล้วคนจนเข้ากันดี ปิดฝา และแช่เย็นราว 20 นาที จากนั้นนำไปแช่แข็งในเครื่องทำไอศกรีมตามวิธีการในคู่มือของผู้ผลิต

3.ซอสช็อกโกแลตโยเกิร์ต


ช็อกโกแลตชนิดหวานปานกลางบิเป็นชิ้น ๆ(หรือจะใช้ช็อกโกแลตชิพ 1 ถ้วยก็ได้)
6  ออนซ์
อบเชยป่น
½  ช้อนชา
โยเกิร์ตไขมันต่ำไม่ปรุงรส
¾  ถ้วย


            ใส่ช็อกโกแลตลงไปในภาชนะที่ตั้งอยู่ในหม้อนึ่งให้ละลายด้วยความร้อนจากน้ำ (อย่าเคี่ยวโดยตรงกับไฟ) หมั่นคน เมื่อช็อกโกแลตละลายค่อยยกลง เทผสมกับโยเกิร์ตและอบเชย คนให้เข้ากัน และได้ซอสข้นและมัน ถ้านำไปแช่เย็นจะข้นขึ้นจนเหมือนครีมมูส

            หมายเหตุ : การไม่ใส่อบเชยจะทำให้ได้รสชาติและกลิ่นช็อกโกแลตมากขึ้น ถ้าจะปรับสูตรเป็นซอสช็อกโกแลตมิ้นต์ ก็เพียงเติมมิ้นต์สกัดแทนอบเชยลงไปประมาณ ½  ช้อนชา ถ้าคุณชอบซอสช็อกโกแลตที่หวานขึ้นก็เปลี่ยนไปใช้โยเกิร์ตกลิ่นวนิลลาไขมันต่ำแทน

4.เบอรรี่ สลัชชี


น้ำเบอร์รี่ (บลูเบอร์รี่ เชอร์รี่ หรือเบอร์รี่รวม)
14  ออนซ์
เบอร์รี่แช่แข็ง (บลูเบอร์รี่ เชอร์รี่ สตรอว์เบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ หรือเบอร์รี่รวม)
½  ถ้วย


            เทน้ำผลไม้ 10 ออนซ์ลงในถาดทำน้ำแข็งแล้วนำไปแช่แข็ง ถาดทำน้ำแข็งทั่วไปจะทำน้ำแข็งขนาดราว 1 ออนซ์ ดังนั้น คุณจะทำได้ 10 ก้อน
            การทำสลัชชี : นำน้ำแข็.ผลไม้ 10 ก้อนมาใส่เครื่องปั่น ตามด้วยน้ำเบอร์รี่ที่เหลืออีก 4 ออนซ์ และลูกเบอร์รี่แช่แข็ง ปิดฝาโถแล้วปั่นจนเข้ากัน

5.สมูทตี้แช่แข็งกับโยเกิร์ตและผลไม้


ลูกเบอร์รี่แช่แข็งหรือสด
½  ถ้วย
นม
¼  ถ้วย
โยเกิร์ตวานิลลาไขมันต่ำ
6 – 8 ออนซ์


            ใช้ช้อนตักโยเกิร์ตใส่ถาดทำน้ำแข็งแล้วนำไปไว้ในช่องแช่แข็ง คุณควรมีสัก 6 – 8 ก้อน เวลาจะทำสมูทตี้แช่แข็งก็นำก้อนน้ำแข็งโยเกิร์ต ลูกเบอร์รี่ และนมมาใส่เครื่องปั่น ปิดฝาแล้วปั่นจนเข้ากันดี

6.สมูทตี้กาแฟเขตร้อน


โยเกิร์ตไขมันต่ำกลิ่นวานิลลา
6 – 8 ออนซ์
กล้วยสุกฝานเป็นชิ้น
1  ลูก
นม
½  ถ้วย
กาแฟสำเร็จรูป
1  ช้อนชา
น้ำตาล
2  ช้อนโต๊ะ


            แช่โยเกิร์ตในถาดทำน้ำแข็งในช่องแช่แข็ง คุณควรมีสัก 6 – 8 ก้อน เวลาจะทำสมูทตี้แช่แข็ง ก็นำก้อนโยเกิร์ตแช่แข็ง กล้วยฝาน นม กาแฟสำเร็จรูปและน้ำตาลใส่รวมกันในเครื่องปั่น ปิดฝาแล้วปั่นจนเข้ากันดี

เครื่องดื่ม

1.ชาเย็น


ชาดำถุง
4  ถุง
ชาเขียวถุง
2  ถุง
น้ำ
2  ควอร์ต


            เทน้ำใส่ลงในกระทะแล้วนำไปต้ม นั่นเป็นสิ่งสำคัญ เพราะว่าน้ำต้องร้อนใกล้เดือดเพื่อสกัดสารอาหารฟีนอลออกมาจากใบชาได้เต็มที่ยกกระทะลงจากเตาแล้วใส่ถุงชาทั้งหมดลงไป ปิดฝาแล้วแช่ถุงชาไว้นานประมาณ 5 – 15 นาที นั่นเป็นเวลาที่เพียงพอสำหรับการสกัดสารฟีนอล เพราะว่าตอนนี้น้ำไม่เดือดแล้ว สารฟีอนลจึงยังมีสูง (ถ้าปล่อยชาถุงแช่อยู่ในน้ำนานกว่า 15 นาที น้ำชาอาจมีรสขมเกินไป)
            คุณสามารถดื่มชาได้ทันทีที่เอาถุงชาออก โดยเพียงรินน้ำชาลงในแก้วที่มีน้ำแข็ง เติมน้ำมะนาวหรือน้ำตาลตามชอบ ถ้ามีน้ำชาเหลือดก็เทใส่เหยือกหรือภาชนะอื่นแล้วนำไปแช่ตู้เย็น

2.ชารสผลไม้


น้ำชาแช่เย็นจัด
¾  ถ้วย
น้ำผลไม้ (องุ่นเขียว บลูเบอร์รี่ เชอร์รี่ หรือทับทิม)
¼  ถ้วย


            รินน้ำชาลงในแก้วทรงสูงที่ใส่น้ำแข็งไว้ เติมน้ำผลไม้และคนให้เข้ากัน

3.ชาแซงเกรีย


ราสเบอร์รี่แช่แข็ง
1  ถ้วย
น้ำชาชงใหม่ ๆ แช่เย็น
3  ถ้วย
น้ำส้มคั้น
1  ถ้วย
น้ำองุ่นเขียว
1  ถ้วย
น้ำโซดา
2  ถ้วย
มะนาวฝาน
1  ชิ้น
เลมอนฝาน
1  ชิ้น


            ปั่นราสเบอร์รี่ในเครื่องปั่น แล้วเทลงลงในเหยือกที่มีความจุอย่างน้อย 2.5 ควอร์ต เติมน้ำชา น้ำองุ่น น้ำส้มคั้น และน้ำโซดา แล้วคนเข้าด้วยกันวางชิ้นมะนาวลงในเหยือกแล้วคนอีกครั้ง
            การเสิร์ฟ : ใส่น้ำแข็งลงในแก้วแล้วรินชาแซงเกรียลงไป วางมะนาวและเลมอนในแต่ละแก้ว

            หมายเหตุ : คุณสามารถใช้น้ำเบอร์รี่อื่น ๆ หรือน้ำทับทิมแทนน้ำองุ่น การทำชาแซงเกรียให้ซ่ามากขึ้นให้ใช้หัวน้ำองุ่นเขียวเข้มข้นแช่แข็งปริมาณ ¼  ถ้วย และหัวน้ำส้มเข้มข้นแช่แข็งประมาณ ¼  ถ้วย แทนน้ำองุ่นเขียวและน้ำส้มคั้นธรรมดา แล้วเพิ่มปริมาณน้ำโซดาเป็น 3 ถ้วย และเพิ่มน้ำชาเป็น 4 ถ้วย



วันอังคารที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2554

สูตรอาหารโปรไบโอติก ตอนที่ 1

อาหารเช้า
1.กราโนล่าและโยเกิร์ตกับผลไม้สด

            การเริ่มต้นวันใหม่ด้วยกาแฟที่ชงจากเมล็ดกาแฟคั่วเข้มสักถ้วยพร้อมกับกราโนล่า 1 ชาม โยเกิร์ตและผลไม้   อาหารชุดนี้ในแบบอาหารว่าง อาหารมื้อค่ำที่สะดวกรวดเร็วหรือแม้แต่มื้อดึกแก้หิว

สำหรับ 1 หน่วยรับประทาน


กราโนล่า
½  ถ้วย
โยเกิร์ตไขมันต่ำรสวนิลา หรือไม่ปรุงรส หรือผสมกัน
¾  ถ้วย
ผสไม้สด
½  ถ้วย
(บลูเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ สตรอว์เบอร์รี่ฝาน แอปเปิลหรือพีชไม่ปอกเปลือกหั่นลูกเต๋า หรือผลไม้อื่นๆ)


เทกราโนล่าลงในชาม เติมโยเกิร์ตลงไป โรยหน้าด้วยผลไม้สดหรือเสิร์ฟในแก้วทรงสูงและทำเป็นของหวาน 6 ชั้น ที่ดึงดูดสายตาโดยใช้กราโนล่ากับโยเกิร์ตอย่างละครึ่งทำเป็น 3 ชั้นแรก จากนั้นก็ทำอีก 3 ชั้น ด้วยกราโนล่า โยเกิร์ต และผลไม้ที่เหลือ

2.
ขนมปังเปรี้ยวปิ้งทาเบอร์รี่

สำหรับ 1 หน่วยรับประทาน


ขนมปังเปรี้ยวที่ทำจากธัญพืชเต็มเมล็ด
2  แผ่น
เบอร์รี่ปั่นสำหรับทาขนมปัง
½  ถ้วย
(บลูเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ สตรอว์เบอร์รี่ หรือผสมหลายอย่าง)



3.โยเกิร์ตผลไม้ปั่น

สำหรับ 3 หน่วยรับประทาน 

สตรอว์เบอร์รี่สดหรือแช่แข็งฝานเป็นชิ้น
1  ถ้วย
กล้วยฝาน
1  ผล
น้ำส้มคั้น
½  ถ้วย
โยเกิร์ตไขมันต่ำรสวานิลลาหรือไม่ปรุงรส
1  ถ้วย
วานิลลาสกัด
1  ช้อนชา


            ****ผสมทุกอย่างในเครื่องปั่น แล้วปั่นจนเป็นเนื้อเดียวกัน

 4.ซุปไก่ตอร์ติลญา

สำหรับ 8 ที่  ที่ละประมาณ 1 ถ้วย


หัวหอมสับ
1  ถ้วย
กรเทียม
2  กลีบ
ผงยี่หร่า
2  ช้อนชา
พริกป่น
2  ช้อนชา
ไวน์แดง
½  ถ้วย
น้ำมันมะกอกเอ็กซ์ตร้าเวอร์จิ้น
1  ช้อนโต๊ะ
เนื้ออกไก่ต้มสุกฉีดฝอยหรือสับละเอียด
2  ถ้วย
เมล็ดข้าวโพดแช่แข็ง
1  ถ้วย
แคร์รอตบด
½  ถ้วย
พริกชี้ฟ้าเขียวสับ ไม่ต้องรินน้ำทิ้ง
1 กระป๋อง(4 – 6 ออนซ์)
น้ำซุปไก่
2 กระป๋อง(12 – 16 ออนซ์)
มะเขือเทศหั่นลูกเต๋า ไม่ต้องรินน้ำทิ้ง
1 กระป๋อง(12 – 16 ออนซ์)
ซอสมะเขือเทศ
1 กระป๋อง(12 – 16 ออนซ์)
ซีอิ๊วขาวหรือทามาริ (ซีอิ๊วที่ได้จากการทำมิโสะไม่ใช้แป้งสาลี)
1  ช้อนชา
โยเกิร์ตไม่ปรุงรส
½  ถ้วย
เนยแข็งเชดดาร์ขูดเส้น
2  ถ้วย
แผ่นตอร์ติลญาอบแล้วบด
1  ถ้วย


            ปั่นหัวหอม กระเทียม ยี่หร่า พริกป่น และไวน์แดงรวมกันในเครื่องปั่นหรือเครื่องผสมอาหาร จากนั้นเติมน้ำมันมะกอกแล้วปั่นอีกครั้ง เครื่องปรุงรสนี้สามารถใช้ทันที หรือคุณอาจเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้วแช่เย็นหรือแช่แข็งไว้
            การทำซุป : ใช้หม้อขนาด 3 ควอร์ตเป็นอย่างน้อย ใส่อกไก่ต้มสุก ข้าวโพด แคร์รอต พริกชี้ฟ้าสับ น้ำซุปไก่ มะเขือเทศ ซอสมะเขือเทศ และทามาริหรือซีอิ๊วขาว เร่งไฟจนใกล้เดือด แล้วราไฟลงอุ่นต่อไปอีกอย่างน้อย 5 นาที (ไม่จำเป็นต้องให้เดือด) แล้วเติมเครื่องปรุงรสลงไป
            ก่อนเสิร์ฟ นำหม้อซุปลงจากเตา แล้วใส่โยเกิร์ตคนจนเข้ากัน ตักซุปใส่ถ้วย จากนั้นโรยหน้าด้วยเนยแข็งขูดประมาณ ½  ถ้วย และตอร์ติลญาบดประมาณ 2 ช้อนโต๊ะต่อซุป 1 ถ้วย

5.ซุปมะเขือเทศกับข้าวโอ๊ตและกระเทียม

สำหรับ 4 ที่


เกล็ดข้าวโอ๊ต (บดเมล็ดจนแบน) ไม่ปรุงสุก
½  ถ้วย
น้ำมันมะกอก
1  ช้อนโต๊ะ
หัวหอมสับละเอียด
1  หัว
กระเทียมหัวใหญ่ซอย
3  กลีบ
มะเขือเทศกระป๋องหั่นลูกเต๋า (รินน้ำทิ้ง)
1 กระป๋อง(12 – 16 ออนซ์)
น้ำซุปผักหรือน้ำซุปอื่น ๆ
3  ถ้วย


            ใช้กระทะขนาด 2 ควอร์ตคั่วข้าวโอ๊ตราว 3 – 5 นาทีด้วยไฟปานกลาง คอยเขย่ากระทะหรือคนไปมาเพื่อให้แน่ใจว่ามันไม่ไหม้ ข้าวโอ๊ตคั่วจะหอมและมีสีคล้ำเล็กน้อย เทใส่ชามพัก
            เทน้ำมันมะกอกลงในกระทะแล้วเอียงไปมาให้น้ำมันเคลือบกระทะจนทั่ว เมื่อน้ำมันร้อนใส่หัวหอมสับและกระเทียมซอยลงไป ผัดประมาณ 5 นาที คนบ่อย ๆ ใส่มะเขือเทศและน้ำซุปลงไป เคี่ยวด้วยไฟอ่อน แล้วเติมข้าวโอ๊ตคั่ว จากนั้นเคี่ยวต่ออีกประมาณ 10 นาที หมั่นคน ชิมดู และเติมเกลือถ้าจำเป็น

อาหารหลัก
1.พาสต้าแป้งโฮลวีตกับซอสมารินาร่า
สำหรับ 8 ที่


ซอสมารินาร่า

หัวหอมสับ
1  ถ้วย
กระเทียมสับ
2  กลีบ
ผงออริกาโน่
1  ช้อนโต๊ะ
ใบโหระพาแห้ง
1  ช้อนชา
ไวน์แดง
¼  ถ้วย
น้ำมันมะกอกเอ็กซ์ตร้าเวอร์จิ้น
2  ช้อนโต๊ะ
ซอสมะเขือเทศ
1 กระป๋อง(14 – 16 ออนซ์)
มะเขือเทศบดไม่ต้องรินน้ำทิ้ง
1 กระป๋อง(12 – 16 ออนซ์)
น้ำมะเขือเทศเข้มข้น
1 กระป๋อง(6 ออนซ์)
แคร์รอตบด
½  ถ้วย
เมล็ดลินินบด
¼  ถ้วย
ถั่วกวนแบบทำเองหรือบรรจุกระป๋อง
2  ช้อนโต๊ะ
น้ำองุ่นเขียว หรือน้ำเบอร์รี่สีเข้ม
¼  ถ้วย
ทามาริ
1  ช้อนชา



พาสต้า

เส้นพาสต้าโฮลวีต
1  ปอนด์



เครื่องโรยหน้า

ออริกาโน่สดสับละเอียด
1  กำเล็ก
เนยแข็งขูด (ปาร์มีซาน โพรโวโลน หรือเกาด้า)
2  ถ้วย


            การทำซอส :  ใส่หัวหอม ออริกาโน่แห้ง ใบโหระพาแห้ง และไวน์แดงลงปั่นในเครื่องปั่นหรือเครื่องผสมอาหาร จากนั้นเติมน้ำมันมะกอกแล้วปั่นอีกครั้ง เสร็จแล้วพักไว้ ส่วนผสมปั่นสามารถทำไว้ล่วงหน้าแช่ในตู้เย็นหรือแช่แข็งได้
            ใช้กระทะขนาด 2 ควอร์ตเป็นอย่างน้อย ใส่ซอสมะเขือเทศ มะเขือเทศบด น้ำมะเขือเทศเข้มข้น แคร์รอตบด เมล็ดลินินบด ถั่วกวน น้ำองุ่นและทามาริลงในกระทะ ใช้ความร้อนปานกลาง หมั่นคนจนซอนใกล้เดือดจะใช้เวลาประมาณ 5 นาที จากนั้นก็เติมเครื่องเทศปั่นที่เตรียมไว้ก่อนแล้วลงไป
            ชิมรสชาติซอสดู ถ้าเปรี้ยวมากไปก็เติมน้ำองุ่นเพิ่ม ทางเลือกอีกอย่างคือ คุณสามารถลดความเปรี้ยวและทำให้ซอสเป็นครีมมันได้โดยเติมโยเกิร์ตไม่ปรุงรสลงไปเล็กน้อยเพื่อปรับรสชาติ
            ขณะที่ซอนยังตั้งไฟอยู่ ต้มเส้นพาสต้าตามวิธีทำบนบรรจุภัณฑ์
            เสิร์ฟเส้นพาสต้าใส่เป็นจาน ๆ แล้วราดซอส โรยออริกาโน่สดสับและเนยแข็งขูด

           
2.นาโชแบบง่าย ๆ
สำหรับ 8 ที่


ซอสถั่วกวน

ถั่วกวน
1 กระป๋อง(12 – 16 ออนซ์)
พริกหวานชี้ฟ้าเขียวหั่นลูกเต๋ารินน้ำทิ้ง
1 กระป๋อง(2 ออนซ์)
กระเทียมซอน
1  กลีบ
หัวหอมสับละเอียด
3  ช้อนโต๊ะ
ซัลซ่า (ดูหมายเหตุ ซัลซ่าหน้า 469)
3  ช้อนโต๊ะ
แผ่นข้าวโพดบดหยาบ (ไขมันต่ำหรืออบแห้ง)

เนยแข็งเชดดาร์บ่ม ขูดเส้น

แคร์รอตบดหรือขูดฝอย

ผักกาดหอมซอย

ซัลซ่า

กัวคาโมล (ไม่ใส่ก็ได้)

มะเขือเทศหั่นลูกเต๋า (ไม่ใส่ก็ได้)

เนื้อไก่ต้มสุกหั่นลูกเต๋าหรือเนื้อแฮมเบอร์เกอร์สุก (ไม่ใส่ก็ได้)



            ซอสถั่วกวน : ใส่ถั่ว พริก กระเทียม หัวหอมและซัลซ่าราว 3 ช้อนโต๊ะลงในกระทะ นำไปตั้งไฟจนอุ่น
            โรยแผ่นข้าวโพดบดรองพื้นในแต่ละจานแล้วราดซอสถั่วข้างบน โรยเนยแข็งขูดเส้นลงบนซอสถั่ว รอประมาณ 1 นาทีให้เนยแข็งละลายเรียงแคร์รอตและผักกาดหอมลงไปด้านบนอีกชั้น แล้วราดซัลซ่าทับ ตามด้วยเครื่องปรุงอะไรก็ได้ตามที่คุณชอบ